วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2559

หญ้าที่กระต่ายกินได้

อาจเคยได้ยินคำถามที่ว่า ทำไมกระต่ายต้องกินหญ้า กินหญ้าเพื่ออะไร แล้วหญ้าอะไรที่กินได้บ้าง
อาจเคยได้ยินคำถามที่ว่า ทำไมกระต่ายต้องกินหญ้า กินหญ้าเพื่ออะไร แล้วหญ้าอะไรที่กินได้บ้าง
คำถามแรก ทำไมกระต่ายต้องกินหญ้า เพราะหญ้าเป็นไฟเบอร์สายยาวซึ่งเหมาะกับระบบย่อยอาหารของกระต่าย
ลองมาดูระบบย่อยอาหารของกระต่ายกันค่ะ แล้วจะต้องร้องอ้อออ
กระต่ายจะกินอาหารเข้าทางปาก และลงสู่กระเพาะอาหาร ผ่านลำไส้เล็ก( Small Intestine) ลำไส้ใหญ่(Colon) ช่องทวารหนัก(Rectum) และออกมาจากทวาร (Anus) และส่วนสีชมพู ที่เห็นคือส่วนของ ซีกัมซึ่งในกระต่ายจะมีขนาดใหญ่มาก เมื่อเทียบกับสัตว์กินเนื้ออย่างแมว หรือสุนัข ซึ่งแทบจะไม่มีหรือเป็นเพียงติ่งเล็กๆ ส่วนของซีกัมนี้จะมีแบคทีเรียมีชีวิต ที่มีปีโยชน์จะช่วยย่อยอาหารจำพวก ไฟเบอร์ เซลลูโลส ได้ จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมกระต่ายจะต้องกินหญ้า หรืออาหารที่มีไฟเบอร์สูงๆค่ะ

หญ้าอะไรที่กระต่ายน้อยของเรากินได้บ้าง ขอพูดเฉพาะหญ้าที่สามารถปลูกได้ในเมืองไทยนะคะ
1. หญ้าขน
         หาได้ง่ายเป็นพุ่มหรือกอตามข้างทาง ลักษณะเป้นเถาเลื้อย ชอบขึ้นตามริมน้ำ ลำต้นอวบน้ำ มีขนเล็กๆอยู่ทั่วทั้งลำต้นและใบ ปลูกโดยใช้ท่อนพันธุ์ กินได้ทั้งหญ้าสดและหญ้าแห้ง ข้อควรระวัง ไม่ควรให้หญ้าขนตัดใหม่ๆหลังฝนตก เพระอวบน้ำมาก อาจทำให้กระต่ายท้องเสีย

2. หญ้าแพงโกล่า
       ลักษณะเป้นเส้นเล็กกว่าหญ้าขน ไม่มีขน  กินได้ทั้งสดและแห้ง แต่ส่วนใหญ่จะเห็นในรูปแบบแห้ง กลิ่นหอม ปลูกโดยใช้ท่อนพันธุ์

3. หญ้ารูซี่
     ลักษณะคล้ายๆหญ้าขน แต่มีใบมากและอ่อนนุ่มกว่า สามารถปลูกให้กระต่ายกินได้โดยใช้เมล็ดพันธุ์ ปลูกในกระถางหรือลงดินแล้วแต่ความเหมาะสม
นอกจากนี้ยังมีหญ้าอื่นๆที่กระต่ายสามารถกินได้ แต่ไม่ได้ปลูกในประเทศไทย เช่น หญ้าธิโทธีหญ้าเฮย์หญ้าเมอมิวด้า

พืชตระกูลถั่ว
       พืชตระกูลถั่วหลายชนิดถูกนำมาให้กระต่ายกิน เสริมอาหาร ข้อดีของพืชตระกูลถั่ว คือหอม โปรตีนสูง เป็นที่ชื่นชอบของกระต่าย แต่บางชนิดก็ไม่สามารถให้ในปริมาณมากได้ หรือบางชนิดอาจให้ได้เฉพาะช่วงวัย เนื่องจากมีแร่ธาตุบางชนิดอยู่มาก
       อัลฟาฟ่า เป็นพืชตระกูลถั่ว กระต่ายชอบ เนื่องจากกลิ่นหอม แต่มีปริมาณแคลเซียมสูง เหมาะสำหรับกระต่ายอายุน้อย(ไม่เกิน เดือน ) และในแม่กระต่ายให้นมลูก นอกจากนี้ยังมีถั่วชนิดอื่นๆ แต่ไม่ขอพูดเนื่องจากไม่เป็นที่นิยมค่ะ
แหลงที่มา http://www.countryrabbitfarm.com/

วีดีโอกระต่าย



มือใหม่เพิ่งเลี้ยงกระต่าย มีสิ่งที่ต้องระวังจ้า

1.อาหารน้อง
กระต่ายอายุยังไม่ถึง 6 เดือน แนะนำให้กินแต่หญ้ากับอาหารเม็ดเท่านั้นนะคะ ระบบย่อยเค้ายังไม่ดี
ถ้ากินอย่างอื่น เสี่ยงต่อท้องเสียมาก
ผัก ถ้ามียาฆ่าแมลงตกค้างนิดเดียว ทำให้เค้าตายได้เลยนะ

มือใหม่หลายคนที่เลี้ยงกระต่ายแล้วตาย 99.99% ตายจากท้องเสีย
ชอบ โทษว่าที่ร้านให้ยากระต่ายบ้างล่ะ ซื้อที่จตุจักร กระต่ายติดเชื้อโรคบ้างล่ะ จริงๆ มันเกิดจากเอาอื่นๆ ที่นอกเหนือจากหญ้ากับอาหารเม็ดให้เค้ากิน
มันไปรบกวนระบบย่อยอาหาร เค้าเลยท้องเสียตาย


2.อาบน้ำ
ไม่แนะนำให้อาบจ้า เพราะ
1.ปกติกระต่ายรักสะอาด เหมือนแมว ไม่ต้องอาบ
2.กระต่ายเซนเซทีฟมากๆ คะ โดยเฉพาะตอนเด็กๆ
- ขนอาจร่วงได้
- แชมพูอาจจะแรงไปสำหรับเค้า
- เป็นหวัด เป็นปอดบวดได้
3.ถ้าจะอาบ ต้อง 6 เดือนขึ้นไป แต่ก็ยังไม่แนะนำอยู่ดี หรือไม่ก็ต้องนานๆที แบบว่าเน่าจริงๆ และต้องเอาไดร์เป่าจนแห้ง
ห้ามใช้แชมพูคน หรือหมา มันแรงไป ต้องใช้แชมพูเด็กทารก หรือแชมพูที่เขียนว่าอาบน้ำกระต่ายได้เท่านั้น

ถ้า สกปรก เดี๋ยวเค้าก็เลียเองคะ แต่ถ้าเน่าแนะนำให้เอาผ้าชุบน้ำเช็ดดีกว่านะคะ ส่วนที่เหลือ เค้าก็เลียตัวเค้าเองแหละคะ กระต่ายรักสะอาดอยู่แล้ว



3.แทะกรง o26HAMS26o
ต้อง ปล่อยเค้าวิ่งเล่นนอกกรงทุกวันนะคะ กระต่ายไม่ชอบอยู่ในกรงหรอก สังเกตได้จากเค้าจะกัดกรง หรืออาละวาด แสดงว่าเค้าเครียด อยากออก
ถ้าปล่อยให้เค้าวิ่งทุกวัน แต่ละวันให้วิ่งจนพอใจ พอเอาเข้ากรง เค้าก็จะไม่แทะกรงแล้วจ้า

รู้ได้ไงว่าพอใจ ปล่อยแรกๆ เค้าก็วิ่งๆ ซนๆ ถ้าเริ่มหามุมนอน แสดงว่าเริ่มพอใจแล้ว แต่อย่าเพิ่งใจร้ายจับเข้ากรงทันทีนะ
ให้เค้านอนเล่นอีกซักหน่อย ค่อยจับเค้ากรง

*** ถ้าปล่อยตอนเค้าไม่เครียด เค้าจะไม่ค่อยซนนะ อึฉี่เป็น แต่ถ้าปล่อยตอนเครียด (แทะกรง อาละวาด) พอออกมานะจะซนมากกกกกกก
อึฉี่เรี่ยราด ฉี่ตรงไหนไม่สน แบบว่าขอเล่นก่อน ***



4.ฝึกกระต่ายเข้าห้องน้ำ
นิสัยกระต่าย เค้าฉี่เป็นที่นะ แต่ต้องฝึกให้ถูกที่หน่อยเท่านั้นเอง (แต่อึ ก็แล้วแต่ตัวนะ)

เค้าจะชอบฉี่แถวๆ ที่เค้าเคยฉี่ เช่น ถ้าเค้าเคยเผลอฉี่แถวนี้ เวลาเค้าจะฉี่เค้าก็จะมาที่แถวๆที่เดิม เพราะว่ามัีนมีกลิ่นอยู่ไง
เราต้องเช็ดกลิ่นออกให้หมดนะ โดยเฉพาะแถวที่เราำไม่อยากให้เค้าฉี่อ่ะ ใช้น้ำเปล่าเช็ดไม่หมด ต้องใช้น้ำยา (บางคนก็ใช้เดทตอล)

ให้เอาห้องน้ำไปวางไว้แถวๆ ที่เค้าชอบฉี่
ต่อไปให้เอาทิชชู่เช็ดฉี่ แล้วเอาไปไว้ในห้องน้ำเค้า เอาเค้าไปดม

ถ้าเห็นเค้าทำท่าจะฉี่ หรือเผลอฉี่ ให้รีบอุ้มไปไว้่ที่ห้องน้ำ ไม่ต้องกลัวนะเค้าำไม่ฉี่ใส่เราหรอก อุ้มปุ๊ป ก็หยุดฉี่แล้ว
วางเค้าไว้ที่ห้องน้ำ ก็ลูบๆ เค้าแหละ แบบว่าให้ฉี่เสร็จก่อนถึงปล่อยให้ไปวิ่งเล่น ทำบ่อยๆ เดี๋ยวเค้าก็รู้เอง

เหมือนเดิม ตรงที่เค้า้ฉี่ก็ไปเช็ดให้หมดกลิ่น ถ้ายังฉี่อีก แสดงว่ามีกลิ่น ก็ต้ัองไปเช็ดอีก

ห้องน้ำกระต่าย 170-200 บาท


5.พูด กับเค้าบ่อยๆ นะ เค้ารู้เรื่อง  ปั้ง..
แบบว่าฟังจากน้ำเสียง ลูกเรานะพอซน เราก็เรียกชื่อแบบดุๆ เค้าก็รู้ว่าโดนดุ รีบหนีใหญ่เลย กลัีวโดนจับเข้ากรง
(พอซนทีไรก็จะโดนดุ และจับเข้ากรง)
บางทีลูกเรากำลังซนๆ อยู่ พอเราเดินมา รีบหยุดแล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ประมาณว่าไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ได้ซนนะ แล้วก็ทำเป็นวิ่งไปเล่นที่อื่น (555 แสบไหมล่ะลูกชายเรา)


6.น้ำ
แนะนำให้ใส่ขวด หากใส่ถ้วย เวลาน้องกิน น้ำจะเข้าจมูก น้องจะเป็นหวัดได้


7.ป่วย
น้องป่วยเป็นอะไร ห้ามให้ยากินเองเด็ดขาด และรีบพาไปหาหมอโดยด่วน
อย่าคิดว่าเล็กน้อย ถ้ากระต่ายถึงขั้นชั๊ก ภายใน 5 นาที ก็บ๊ายบายได้เลย
กระต่ายแพ้แอสไพรีน


8.กระต่ายเด็ก หรือไม่กิน ไม่อึ ไม่ฉี่
แนะนำให้ไปซื้อนมแพะที่เป็นกระป๋อง (กระป๋องเท่่านมข้น ราคาประมาณ 70 บาท)
นมที่สำหรับเลี้ยงลูกแมว (เ้ป็นผง ชงเอง)
อุ่นให้ร้อน แต่ทิ้งให้หายร้อนก่อนนะคะ ให้ทดสอบกับหลังมือว่าร้อนไปไหม

 เว๋อ.. ห้ามใช้นมวัวเด็ดขาด กระต่ายจะท้องเสีย
ใช้ดรอปเปอร์ป้อน(อันละ 10 บาท)

อุ้มแบบเด็กกินนมอ่ะจ้า
แรกๆ ต้องบังคับกิน พอผ่านไปสัก 2 วันนะ ดูดไม่ปล่อยเลย

อาหารก็ไว้ในกรง ลองสังเกตดูว่าเค้าเริ่มกินก็ค่อยๆ ลดนมลงค่ะ

ของเรา 1 อาทิตย์ค่ะ กว่าจะกินอาหารเป็น
ถ้าเค้าเริ่มกินอาหาร เดี๋ยวเค้าก็จะอึจ้า


9. เสริมเรื่องอาหาร

- ไฟเบอร์เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับกระต่าย สำคัญกว่าวิตามินอีก
ถ้า เป็นไปได้ควรจะให้หญ้าขนสดทุกวัน แนะนำให้ล้างน้ำให้สะอาด อาจจะใช้ด่างทับทิมล้าง แต่ถ้าำไม่มีก็ใช้น้ำเปล่าค่ะ ล้างสารตกค้าง ไร ไข่แมลงออก

- หญ้าอัฟฟาฟ่า มีโปรตีนเยอะ (ไฟเบอร์ไม่เท่าหญ้าขน)
เหมาะกับกระต่ายเด็ก (ตั้งแต่หย่านม ถึง 6 เดือน ) เพราะเด็กต้องการโปรตีนในการเจริญเติบโต
เหมาะกับกระต่ายท้อง ช่วยบำรุง
1 วันให้แค่ 1 หยิบมือก็เพียงพอ 1 ถุง ประมาณ 199 บาท

- หญ้าทีโมที ไฟเบอร์เยอะมาก
เหมาะกับกระต่ายโต 6 เดือนขึ้นไป เปลี่ยนจากอัฟฟาฟ่า มาเป็นทีโมทีแทน กระต่ายโตต้องการไฟเบอร์มากๆ ช่วยระบบย่อย
เหมาะกับหาหญ้าขนให้กินทุกวันไม่ได้จริงๆ ก็แนะนำให้เสริมทีโมทีค่ะ 1 ถุง ประมาณ 199 บาท

- หญ้าแห้งแพงโกล่า ไฟเบอร์ไม่เยอะเท่าหญ้าขน แนะนำให้มีติดกรงไว้ตลอดค่ะ น้องจะได้เคี้ยวเล่น ลับฟันไปในตัว ถ้าอาหารหมด จะได้มีอะไรกินด้วย เป็นหญ้าที่ราคาถูกมั๊กๆ ถุงใหญ่สูงเกือบเท่าเข่า ราคาแค่ 60 บาทเอง กินได้ 3-6 เดือน

- อาหารเม็ด
ควรดูไฟเบอร์ด้วยว่ากี่เปอร์เซนต์ ยิ่งเยอะยิ่งดี กลางๆ ก็ 16% และไม่มีส่วนผสมของกระถิน ปลาป่น

* อาหารกระต่าย ดีที่สุดก็ OXBOW ไฟเบอร์เยอะมาก ราคาค่อนข้างสูงนิดนึง
เด็กสูตร A เหมาะกับกระต่าย หย่านมถึง 6 เดือน มีอัฟฟาฟ่าเยอะ เลยย่อว่า A 1 ถุง 2.25 กิโล 340 บาท
โตสูตร T เหมาะกับกระต่าย 6 เดือนขึ้นไป มีทีโมทีเยอะ เลยย่อว่า T 1 ถุง 2.25 กิโล 440 บาท
เป็นของดี แต่น้องกระต่ายส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบกิน แต่เดี๋ยวหิวเค้าก็กินเองแหละ

* อาหารถูกที่โอเคก็ Sun Rabbit ไม่มีกระถิน ปลาป่น 1 กิโล 20 บาท คุณภาพกลางๆ

* ยี่ห้อ CP ถุงสีชมพูไม่ค่อยแนะนำนะคะ อ้วนอย่างเดียว ไฟเบอร์น้อยมาก วิตามินก็ไม่มี
แต่น่าแปลก ไม่รู้ใส่กัญชามารึเปล่า อย่าได้เผลอให้ลูกกิน จะติดกันงอมแงม ไม่ยอมกินยี่ห้ออื่น
ของไม่มีประโยชน์ชอบกินจัง 1 ถุง 1 กิโล 45-65 บาท

* ไบร์เทอร์บันนี่ ถุงสีฟ้า เป็นของCP ไฟเบอร์กลางๆ ประมาณ 16% เค้าจะเน้นเสริมวิตามิน คุณภาพกลางๆ
สงสัยจะใส่กัญชาเหมือนกัน กระต่ายติดงอมแงม 1 ถุง 1 กิโล 90 บาท

* จริงๆ มีอีกหลายยี่ห้อค่ะ บางยี่ห้อก็ลดกลิ่นฉี่ ลดการเกิดก้อนขนในท้อง แล้วแต่คุณแม่ต้องการเสริมอะไร ก็เอาไปผสมกับยี่ห้ออื่นที่ไฟเบอร์เยอะนะคะ เพราะพวกนี้จะไฟเบอร์กลางๆ


****สำหรับคนงบน้อย แนะนำว่าอย่าซื้อแค่ยี่ห้อถูกๆ แต่ควรจะมียี่ห้อดีๆ ผสมไปด้วย เช่น
หลักๆ ก็ให้ Sun Rabbit แต่ควรซื้อOXBOW ผสมลงไปให้กินด้วย จะได้ประโยชน์มากกว่าซื้อยี่ห้อกลางๆ อีกนะคะ และเสริมหญ้าทุกวัน****




10. วิธีเปลี่ยนอาหารเม็ด แนะนำให้ค่อยๆ เปลี่ยนนะคะ ผสมใหม่ 1 ส่วน เก่า 10 ส่วนก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เปลี่ยนทันทีกระต่ายจะเครียด บางทีอาจท้องเสียเพราะปรับไม่ทันก็มีค่ะ



11. วิธีเลือกกรง แนะนำให้ซื้อดีๆ ค่ะ
เราเคยซื้อถูกๆ ไป กรงละ 200 บาท ที่ชุบสีๆ สีขาว ฟ้า ชมพู
ไอ้ พวกนั้นไม่ถึง 2 เดือน โดนแทะเรียบ ถ้าน้องกินก็อันตราย แรกๆ ก็จะรู้สึกว่ากรงใหญ่สำหรับน้อง ไม่ถึง 3 เดือนก็อยู่ไม่ได้แล้ว กระต่ายจะตัวโตเท่าแมวอ้วนๆ นะคะ บางตัวก็โตกว่านั้น

เรางก ซื้อแต่ถูกๆ ปรากฎว่าไม่ถึงปี เปลี่ยนกรงที่ 3 แล้ว พอโดนแทะแล้วสนิมมันขึ้นง่าย
ก็เลยซื้อดีๆ เลย กรงโครเมี่ยมดีมาก คอนเฟิร์ม

เราซื้อร้านป้า...(อยากรู้ถามหลังไมค์นะคะ) จตุจักรพลาซ่า โซน D ซอย 9
-โครเมี่ยมเบอร์ 3 --- 600 บาท กว้าง 42 cm ยาว 59 cm สูง 43 cm
-โครเมี่ยมเบอร์ 2 --- 900 บาท กว้าง 50 cm ยาว 76 cm สูง 60 cm
-สีระเบิดเบอร์ 3 --- 500 บาท
-สีระเบิดเบอร์ 2 --- 600 บาท

โครเมี่ยม กับ สีระเบิดเบอร์

1. ข้อดีโครเมี่ยม กับ สีระเบิดเบอร์ เด็กแทะไม่ได้
2. ถ้ากรงเปียก สนิมจะขึ้นง่าย ทุกครั้งที่ล้างต้องรีบเช็ดให้แห้ง จะทำให้สนิมขึ้นช้า
3. สีระเบิดหนักมั๊กๆ โครเมี่ยมเบากว่า โครเมี่ยมเบอร์ 3 ผู้หญิงหนัก 40 กิโลอย่างเราแบกขึ้นรถเมล์สบายๆ
4. โครเมี่ยมเป็นสนิมช้ากว่า
5. เบอร์ 2 ใหญ่กว่าเบอร์ 3
6. กระต่ายตัวเดียว อย่างน้อยต้องเบอร์ 3 กระต่าย 2 ตัว ต้องเบอร์ 2 ค่ะ
7. ถ้าอยากได้กรงไม่เป็นสนิมเลย ต้องสแตนเลส ที่เป็นกรงหมา เท่าที่รู้ราคา 5,000 บาท



12. วิธีเลือกน้องกระต่าย
**ถ้ากระต่ายตาปลือ เหมือนง่วงนอนตลอดเวลา เดินไม่แข็ง เหมือนจะนอนตลอด
แสดงว่าเป็นกระต่ายเด็ก ยังไม่หย่านม ไม่ควรซื้อ
**เอาน้องที่ดูแข็งแรง ซนๆ จับขึ้นมาแล้วเค้าถีบๆ เอาตัวนั้นล่ะจ้า แข็งแรงดี
ถ้าไม่ต่อต้าน อ่อนปวกเปียก --- ไม่ควรซื้อ ไม่แข็งแรง
**ก้นต้องไม่มีอึเละๆ ติดขน --- ถ้ามีแสดงว่าท้องเสีย
**ดูฟันด้วย ฟันต้องไม่เก ต้องยาวเท่ากัน --- ถ้ามีไม่ควรซื้อ เพราะต้องพาไปตัดฟันบ่อยๆ
**กระต่ายต้องไม่ขาแป ยืนได้ เดินได้ --- ถ้ามีไม่ควรซื้อ กระต่ายพิการเดินไม่ได้


พืชผักผลไม้ที่กระต่ายกินได้และไม่ได้

พืช ผัก ผลไม้ ที่กระต่ายกินได้และไม่ได้



ผักที่กระต่ายกินได้
  •  แครอท
  • ผักกาดขาว
  • ผักบุ้งจีน
  • คะน้า คะน้าฮ่องกง (ปริมาณไม่มาก)
  • กวางตุ้ง
  • ผักกาดหางหงษ์
  • ผักชีฝรั่ง
  • หน่อไม้ฝรั่ง
  • กระเพรา (อาทิตย์ละ 2-3 ใบ)
  • โหระพา (อาทิตย์ละ 2-3 ใบ)
  • สะระแหน่
  • ใบบัวบก
  • แมงลัก
  • ข้าวโพดอ่อน
  • ยอดอ่อนแรดิช
  • ยอดอ่อนโคลเวอร์
  • ผักฮ่องเต้
  • บร็อคโคลี่
  • บรัสซัส สเปราท์ (Brussels Sprouts)
  • หัวแครอท และต้นแครอท
  • หัวบีทชาร์ด
  • โคลเวอร์
  • มะเขือม่วง มะเขือยาว
  • ผักโขม (Spinach)
  • ใบกระเจี๊ยบ
  • ผักชีฝรั่ง (Parsley)
  • ใบเปปเปอร์มินต์
  • พริกหยวก (Peppers) เขียว เหลือง แดง
  • ใบฟักทอง
  • ต้นแรดิช
  • ใบราสเบอรี่
  • สควอช เช่น ซูคินี่ ฟักทอง (Squash : Zucchini, Yellow, Butternut, Pumpkin)
  • วอเตอร์เครส (Watercress)
  • ต้นข้าวสาลี (Wheat Grass)

ผลไม้ที่กระต่ายกินได้

  • ให้ผลไม้สัปดาห์ละ 1 ถึง 2 ครั้ง ในปริมาณน้อย อย่าให้กระต่ายกินเม็ดผลไม้
  • สัปปะรด
  • เมล่อน
  • มะละกอ
  • พีช
  • พลัม (ลูกไหม)
  • แพร์
  • ราสเบอรรี่
  • สตรอเบอรรี่
  • แอปเปิ้ล (เอาเม็ดออก เม็ดและแกนเป็นพิษ)
  • สาลี่
  • มะละกอ
  • แคนตาลูป
  • องุ่น (เอาเม็ดออก เม็ดและแกนเป็นพิษ)
  • ส้ม (ไม่เปรี้ยว)
  • มะม่วงดิบ
  • ข้าวโพดดิบ
  • กล้วย (สุกและปลอกเปลือกออก)

ผักและผลไม้ที่เป็นอันตรายต่อกระต่าย

  • แตงกวา
  • ผักบุ้งไทย
  • กระหล่ำปลี
  • Iceberg
  • ผักกาดแก้ว
  • หัวผักกาด (Parsnips)
  • มันฝรั่ง
  • เทอร์นิป (Swede Turnips)
  • ลูกและใบมะเขือเทศ
  • ถั่วลิสง
  • ถั่วฝักยาว
  • ผักกาดหอม ได้บ้างแต่ไม่มาก เพราะผักกาดหอมมีแลคทูคาเรียม (lactucarium) ซึ่งอาจทำให้กระต่ายของคุณท้องเสียได้
  • กระเทียม
  • พริมโรส
  • ดอกทิวลิป
  • ดอกแอเนโมเน่
  • เมล็ดข้าว
  • พืชฝักตระกูลถั่ว (เช่น ถั่วลิสง ถั่วแระ ถั่วฝักยาว) และ ถั่วเปลือกแข็ง (เช่น วอลนัท เกาลัด)
  • กระหล่ำดอก
  • บอคเคอรี่
  • เมล็ดธัญพืช
  • หัวหอม
  • ต้นหอม
  • ผักกาดสลัด
  • หน่อไม่ฝรั่ง ผักยอดอ่อนทั้งหลาย แต่หากกินไม่มากก็ไม่เป็นไร
  • และผัก-ผลไม้ทุกอย่างที่ทำให้เกิดแก็สในกระเพาะ เช่น ทุเรียน ลำใย

อาหารกระต่าย

นวทางการให้อาหารน้องกระต่าย


Rabbit feeding guideline (แนวทางการให้อาหารสำหรับกระต่าย)

โดย สพ.ญ.พรพลอย ทองจุไร (หมอบอมบ์@ธัญพลอย รักษาสัตว์)


วันนี้จะมาเสนอแนะแนวทางการให้อาหารกระต่ายค่ะ เพื่อนๆสามารถปรับใช้ได้ตามความเหมาะสมของวัตถุดิบและกำลังทรัพย์ที่พอหาได้นะคะ แต่ก็อย่าลืมว่า  You are what you eat เพราะฉะนั้นการให้อาหารกระต่ายอย่างถูกต้อง ก็จะช่วยให้อายุของน้องต่ายแสนรักของเรายืนยาวไปด้วยค่ะ โรคภัยไข้เจ็บก็จะลดน้อยลงค่ะ

จริงแล้วข้อมูลเรื่องโภชนาการของอาหารกระต่าย มีมากเหลือเกินค่ะ ถ้าจะพูดกันโดยรายละเอียดคงจะเยอะเกินไป อาจทำให้เจ้าของปวดหัวและมึนงงได้ เอาเป็นว่า จะสรุปหลักใหญ่ใจความสำคัญให้นำไปใช้ได้จริงนะคะ

รูปแบบการให้อาหารก็มีหลากหลายแบบค่ะ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งความสะดวกของเจ้าของเอง และความชอบของน้องกระต่ายของเราค่ะ

การให้อาหารแบบที่ 1 


1. ให้ hayหรือหญ้าแห้ง เป็นหลัก ซึ่งปัจจุบัน มีให้เลือกหลายชนิด และหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น timothy ,ordhard ,botanical hay หรือ oat hay 

2. เสริมด้วยผักสด แนะนำให้เสริมหลังจากอายุ6เดือนขึ้นไป หรือถ้าจะให้ดี ก็1 ปีขึ้นไปค่ะ

3. อาหารเม็ด มีให้เลือกหลายรูปแบบ ทั้ง local made และ import ก้พิจารณากันตามกำลังทรัพย์ได้เลยค่ะ แต่แนะนำว่าควรจะดูที่มี ปริมาณไฟเบอร์สูงที่สุดเท่าที่เราจะซื้อไหวค่ะ โดยทั่วไปก็จะมี2สูตร คือสูตรกระต่ายเด็กก่อน 6 เดือน และสูตรกระต่ายโต หลัง6 เดือนค่ะ

4. ผลไม้ หรือขนมขบเคี้ยวสำหรับกระต่าย ควรให้ในปริมาณน้อย หรือให้เพื่อเป็นรางวัลเวลาเค้าทำดีค่ะ เช่นการฝึกกระโดด ฝึกเข้ากรง

 
*****  การให้อาหารแบบที่2  แบบนี้แนะนำค่ะ *****  เพราะโดยส่วนใหญ่หมอเองก็จะใช้วิธีนี้ค่ะ ให้ผลดีกับระบบย่อยของน้องกระต่าย และไม่ค่อยเกิดปัญหาเรื่องทางเดินอาหารตามมาค่ะ



1. ให้ Hay เป็นหลัก 75-80% เวลาเลือกซื้อหญ้า ให้เลือกที่ต้นและใบยังเขียว ไม่เป็นเศษฝุ่นฟุ้ง และไม่เก่าจนเกินไป ไม่มีเชื้อรา อยู่ในหีบห่อที่ได้มาตรฐาน

ในกระต่ายเด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือน ให้เราระลึกไว้เสมอว่า ทางเดินอาหารของเค้ายังไม่มีความเป็นกรดที่แข็งแรงพอในการต่อสู้กับเชื้อโรค เนื่องจากร่างกายปรับระดับ pHให้เหมาะกับการย่อยนม โดยเฉพาะช่วง4 เดือนแรกเพราะฉะนั้นจะทำให้เกิด ท้องเสีย ท้องอืดได้ง่าย ในช่วงนี้แนะนำให้ใช้ Alfalfa เป็นหลักค่ะ เพราะไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกรด ด่าง ในทางเดินอาหาร ลดความเสี่ยงในการเกิด ท้องเสียได้ และมีสารอาหารสูง แคลเซี่ยมสูง เหมาะกับวัยเจริญเติบโต

ในกระต่ายหลัง 6 เดือน อาจจะเลือกใช้เป็น Timothy,Orchard,Botanical hay หรือ oat hay ได้ค่ะ แล้วแต่เจ้าของสะดวกและน้องกระต่ายชอบ และอาจจะเสริม ด้วยแพงโกล่า เนื่องจาก ไฟเบอร์ที่มาจากแพงโกล่า มักจะเป็นไฟเบอร์ที่ย่อยไม่ได้ (Indigestible fiber) ถ้าให้เป็นอาหารหลักที่กินประจำ จะพบว่ากระต่ายจะอึเยอะ กินเยอะ แต่จะผอม 

2. อาหารเม็ด 20% ควรเลือกที่มีไฟเบอร์สูงค่ะ แนะนำที่มากกว่า 20%  แต่ก็มักจะราคาสูงตามไปด้วย ส่วนใหญ่อาหารเกรดพรีเมี่ยมก็จะแบ่งเป็น สูตรกระต่ายเด็ก และสูตรกระต่ายโต เลือกใช้ตามความเมาะสมค่ะ

3. ผักสด ผลไม้ หรือ treat  5% ควรเสริมเมื่ออายุ1 ปีขึ้นไปค่ะ ผลไม้ควรเป็นผลไม้ fiber สูง เช่น แอปเปิ้ล ลูกพีซ สาลี่ 


 


ตัวอย่างอัลฟาฟ่าและทีโมธีนำเข้าที่มีขายตามท้องตลาด



แหล่งที่มา http://www.rabbit2you.com/

กระต่ายน้อย